HTML คืออะไร? ทำไมทุกเว็บไซต์ต้องมี HTML
Post date: 2025/04/26
Last update: 2025/04/26
Write by: Pasit Phonmanee (Founder)

ดัชนี
- 1. อะไรคือ HTML
- 2. div, class, id, ul, li ใน HTML
- 3. div คืออะไร
- 4. class คืออะไร
- 5. id คืออะไร
- 6. ul คืออะไร
- 7. li คืออะไร
- 8. a คืออะไร
- 9. ตัวอย่าง HTML พร้อมตกแต่ง
- 10. ท้ายสุด
อะไรคือ HTML
HTML ย่อมาจาก HyperText Markup Language มันคือโครงสร้างของเว็บ เอาไว้กำหนดว่าหน้าเว็บของเรามีอะไรบ้าง ไม่ใช่ภาษาสำหรับคำนวณ แต่เป็นภาษาที่ช่วยจัดโครงสร้างเนื้อหาสำหรับเว็บเบราว์เซอร์ หัวข้อใหญ่ หัวข้อย่อย บทความ รูปภาพ ปุ่ม กำหนดแล้วใช้ CSS ตกแต่ง หรือถ้าอยากมีการโต้ตอบก็ใช้ JS มาทำต่อ แต่ก็เริ่มต้นจาก HTML และตัว HTML เองก็บอกว่าอะไรอยู่ตรงไหน และมีหน้าที่อะไร หัวข้อใหญ่ ย่อหน้า ลิงก์ ปุ่มส่งฟอร์ม
- HyperText = ข้อความที่เชื่อมโยงกันได้ (กดลิงก์ไปหน้าต่าง ๆ ได้)
- Markup = การ "ทำเครื่องหมาย" ให้รู้ว่า อันนี้คือหัวข้อ, อันนี้คือย่อหน้า ฯลฯ
- Language = ภาษา (แต่เป็นภาษาที่บอกโครงสร้างนะ ไม่ใช่ภาษาคำนวณเหมือนโปรแกรมมิ่ง)
ตัวอย่าง HTML เบื้องต้น
ทาง webdevohm เองนอกจากจะมีบริการเช่า ซื้อโค้ดไปใช้ต่อ หรือสั่งทำกับเรา สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ shop เพื่อหาบริการที่เหมาะกับตัวเองทางทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาในทุกๆก้าวเราพร้อมสนับสนุนครับ และ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานด้านโค้ด ทางเราดูแลให้ครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่ร่างโครง สร้างเนื้อหา ไปจนถึงอัปโหลดขึ้นระบบแบบพร้อมใช้งาน ชมเทมเพลต หรือชมเพื่อเป็นตัวอย่าง
เหมาะกับคนทั่วไปยังไง?
สามารถนำไปสร้างเว็บไซต์ส่วนตัวง่าย ๆ ได้เอง
นำไปสร้างพอร์ตฟอลิโอ แนะนำผลงานของตัวเอาไว้นำเสนอหรือเป็นที่สามารถแชร์งานของตัวเองออกไปให้คนทั่วทั้งโลกได้เห็น ทั้งยังสามารถนำมาใส่ เป็นประวัติส่วนตัว แฟ้มสะสมผลงาน ออกแบบความเป็นตัวเองอย่างหลากหลายและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นลายเซ็นที่เด่นชัด
เสริมความรู้และแก้ไขเว็บที่มีเทมเพลตอยู่แล้วได้
หากต้องการเป็นเจ้าของเว็บไซต์การมีความรู้เพื่อหาหน้าตาเว็บที่ชอบจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมสำหรับผู้สนใจซื้อเทมเพลตมาเป็นของตัวเอง นำมาเขียนบล็อกความรู้ดึงยอดผู้ชมและเป็นช่องทางรายได้เสริมในการเผยแผ่ความรู้ที่มีความเป็นลายเซ็นของท่าน หรือเช่นที่เห็นได้ชัดคือ ที่ซื้อธีมมา ก็ใช้ HTML แก้ไขข้อความ รูป ปุ่ม ต่าง ๆ ได้
เรียนรู้เพื่อไปต่อยอดอย่างอื่น
สามารถเรียนรู้เพื่อไปต่อยอดขายเว็บจริงจังก็ต้องรู้ HTML เป็นพื้นฐาน แล้วไปต่อยอด CSS, JS และ PHP, ฯลฯ
ตัวอย่างสถานการณ์จริงๆ
- เปิดเพจร้านกาแฟ → ทำเว็บเมนูออนไลน์ง่าย ๆ
- รับงานเขียนบทความ → ทำเว็บรวมผลงานส่งลูกค้า
- ขายของแฮนด์เมด → ทำเว็บโชว์สินค้า
- สมัครงาน → แนบลิงก์เว็บไซต์พอร์ตตัวเองที่ทำด้วย HTML
div, class, id, ul, li h1-h5 ใน HTML
ใช้บ่อยมากควรรู้จักและนำไปใช้ได้จริงใช้ได้เสมอๆในระบบ HTML ที่เราจะแสดงตัวอย่างและอธิบายรูปแบบที่จะแสดงออกไป ในการสร้างและการนำไปใช้
- โค้ดที่จะกล่าวถึงในการใช้งานรูปแบบที่แตกต่างและหน้าที่ที่ต่างกัน
- <div> คืออะไร?
- class คืออะไร?
- id คืออะไร?
- ul คืออะไร?
- li คืออะไร?
- h1-h5 คืออะไร?
<div> คืออะไร?
div ย่อมาจาก division = การแบ่งกล่อง ให้มองเว็บทั้งเว็บเป็น 1 กล่อง และที่เหลือที่ถูกสร้างด้วย <div> เองก็คือกล่องที่อยู่ในกล่อง และเอาไว้ครอบ กลุ่มเนื้อหา เช่น ย่อหน้า, รูป, ปุ่ม ฯลฯ ให้เป็น "กลุ่มเดียวกัน" เพื่อทำให้ตัวเว็บไซต์เองมีความเป็นระบบเบียบและตกแต่งง่ายด้วย CSS
ตัวอย่าง <div> 1 ชั้น
โค้ดตัวอย่าง <div> 1 ชั้น
CSS ที่ต้องทำให้ สัมพันธ์กัน
ตัวอย่าง <div> 3 ชั้น ซ้อนกัน
โค้ดตัวอย่าง <div> 3 ชั้น
CSS ที่ต้องทำให้ สัมพันธ์กัน
class คืออะไร?
ใช้ "ตั้งชื่อกลุ่ม" หรือแท็กอื่นๆ นิยมใช้เป็นกลุ่ม เช่น .card, .menu, .product-block เพื่อช่วยให้เว็บขยายง่าย และแก้ไขรวดเร็ว ในหนึ่งชุดการเขียนโค้ดมีหลายอันได้ ซ้ำได้ เมื่อเปลี่ยนสี ด้วย CSS จะเปลี่ยนพร้อมกันหมดเลย มีรูปแบบการใช่งานที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่นเมื่อต้องการสร้างเว็บหลายๆชุดพร้อมกัน เพื่อให้ผู้อ่านใช้งานสะดวกขึ้น
- ประโยชน์ของ class ในอนาคต:
- เวลาเว็บใหญ่ขึ้น เช่น 100 กล่องสินค้า → เปลี่ยนดีไซน์แค่ครั้งเดียวทุกกล่อง
- JavaScript ก็สามารถ "หากล่องที่มี class เดียวกัน" แล้วทำงานได้ เช่น สร้าง animation ทีเดียวหมด
- Framework ใหญ่ ๆ เช่น Bootstrap, Tailwind ก็ใช้ class เป็นหลักหมด
ตัวอย่าง <div class=" " >
โค้ดตัวอย่าง <div class=" " >
CSS ที่ต้องทำให้ สัมพันธ์กัน
id คืออะไร และใช้อย่างไร?
id = ย่อมาจาก identifier → หมายถึง "ตัวระบุเฉพาะ" ใช้ในการตั้งชื่อเฉพาะเจาะจงสำหรับแท็กเดียว ในหน้าเว็บ 1 เว็บห้ามมี id ซ้ำกันเด็ดขาด ควรมีแค่หนึ่งเดียวในแต่ละหน้า เพราะ JavaScript และ CSS จะอ้างอิงตัวแรกที่เจอเท่านั้นใช้ในการตกแต่งเฉพาะจุดด้วย CSS หรือการส่งข้อมูลผ่าน id จาก JS
- การใช้งาน:
- CSS แบบเฉพาะจุด เช่น เปลี่ยนพื้นหลังแค่กล่องเดียว
- เชื่อมกับเมนูนำทาง เช่น กดปุ่มแล้วเลื่อนไปที่ id นั้น
- เรียกใช้งานใน JavaScript เช่น ดึงข้อมูล, เปลี่ยนสี, แสดง/ซ่อน id นั้น ๆ
ตัวอย่าง < id >
โค้ดตัวอย่าง < id > 3 ชั้น
CSS ที่ต้องทำให้ สัมพันธ์กัน
ตัวอย่าง < id > ใช้กับ JavaScript ทดสอบการเลื่อน
โค้ดตัวอย่าง < id > ใช้กับ JavaScript ทดสอบการเลื่อน
โค้ดตัวอย่าง JavaScript ทดสอบการเลื่อน
<ul> คืออะไร และใช้อย่างไร?
Unordered List คือ รายการที่ไม่เรียงลำดับ" (ไม่มีเลข 1. 2. 3.) ใช้สร้างลิสต์ข้อมูล ที่ไม่มีความจำเป็นต้องเรียงลำดับ. เช่น รายการสินค้า เมนูเว็บ คุณสมบัติสินค้า และอื่นๆ
<li> คืออะไร และใช้อย่างไร?
<li> ย่อมาจาก List Item คือ แต่ละข้อในรายการ" (ไม่มีเลข 1. 2. 3.) <li> ต้องอยู่ใน <ul> หรือ <ol> เท่านั้น
ตัวอย่างการใช้งานในช่วงต้นของบล็อกนำไปเป็นหัวข้อที่นำเสนอ
จะเป็นการโครงสร้างด้วย ul และ li และ a ใช้สำหรับการลิงก์ภายในหน้าเว็บไปในส่วนต่างๆ
โค้ดตัวอย่าง <ul> และ <li>
<a> คืออะไร และใช้อย่างไร?
<a> ย่อมากจาก anchor แปลว่า สมอเรือ ใช้เชื่อมไปยังจุดอื่นๆเช่นลิงก์ไปเว็บอื่น หรือลิงก์ไปในหน้าเดียวกัน เช่น ไปยังเว็บ WebDevOhm หรือ CSS ก็ได้เช่นกัน
ตัวอย่างการใช้งานลิงก์ไปยังเว็บอื่นๆ <a>
- สามารถชมเทมเพลตทั้งหมดทั้ง php และ html ที่วางขายใน themeforest(เร็วๆนี้)
- สามารถชมบริการทั้งหมดของเรา
- สามารถชมเช่ากับเราสิไม่ต้องสร้างเองมี โดเมนและโฮตส์ให้
- สามารถชมซื้อขาดไปใช้งานต่อก็ได้เป็นโค้ด php นะครับ ส่วน htmlบนthemeforest(เร็วๆนี้)จะมาเร็วๆนี้แน่นอน
- สามารถชมสั่งทำระบบเฉพาะทางเราก็รับทำขึ้นอยู่กับเสกลที่จะทำนะครับ
- สามารถชมความรู้กับเราต่อก็ได้เลยครับชาอุ่น ๆ ข้างกาย รับความรู้กับเราต่อฟรี ๆ
- ท่านใดอยากซัพพอร์ต โอนที่เบอร์หรือติดต่อทางemail เพื่อขอรหัสธนาคารได้ครับทางทีมของเรายินดีรับเป็นกาแฟร้อนหรือชาอุ่นๆให้ได้รับบทความดีๆแบบนี้อีกครับ
โค้ดตัวอย่าง <a>
การนำไปใช้งาน
เราจะนำเสนอโครงสร้างยาว ๆแล้วมาอธิบายกันว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ถ้าอยากเรียนรู้การนำไปใช้ตัวอย่างที่พร้อม css จริงๆหรือ js ตัวอย่างทั้งหมดทั้ง ความเกี่ยวข้องทั้งหมดและโครงสร้างสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ วิธีสร้างเว็บตั้งแต่ต้นจนจบ
โครงสร้างหลักๆที่ใช้งานโดยรวมทั้งเนื้อหา การทำ SEO การทำโลโก้ในแท็ป การเรียก cssมาใช้งานและอื่นๆในส่วน <head> ที่มีการเก็บการเชื่อมโยงไปหน้าอื่นไว้ header การเก็บเนื้อหาต่างๆด้วย <main></main> ที่มีการใช้ section ด้านใน และการใส่ลิงก์ส่งท้ายด้วย <footer>
ท้ายสุด
ขอบคุณที่ติดตามจนจบบทความ... หากคุณสนใจทดลองใช้เว็บไซต์พร้อมระบบหลังบ้านของเรา
👉 ดูบริการทั้งหมด: คลิกที่นี่
📩 สนับสนุนหรือพูดคุยเพิ่มเติม: ติดต่อทีมงาน